iBoXua.com

เทคโนโลยี ธุรกิจ การเงิน และการลงทุน

Sadvertising สร้างแบรนด์ให้ถูกจดจำผ่านโฆษณาที่น่าเศร้า

โลกของการโฆษณา มีเทคนิคหลากหลายที่ถูกใช้เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้ชม และหนึ่งในกลยุทธ์ที่กำลังเป็นที่นิยมคือ Sadvertising หรือโฆษณาที่เน้นการกระตุ้นอารมณ์เศร้าใจ เป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความรู้สึกทางอารมณ์ เช่น ความสูญเสีย ความทรงจำ หรือความรักที่เจ็บปวด ซึ่งโฆษณาเหล่านี้มักสร้างความทรงจำที่ตราตรึงและจดจำได้ง่าย เพราะเมื่ออารมณ์เศร้าถูกกระตุ้น ผู้ชมจะรู้สึกเชื่อมโยงและเข้าใจแบรนด์ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น

ทำไม Sadvertising ถึงได้ผล?

1. เชื่อมโยงอารมณ์กับผู้ช

โฆษณาที่มีเนื้อหาเศร้าใจมักสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ชมได้ง่าย เพราะอารมณ์เศร้าเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยสัมผัส อารมณ์นี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจ แต่ยังทำให้ผู้ชมจดจำเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น การที่แบรนด์สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวจะทำให้พวกเขาจดจำแบรนด์นั้นได้อย่างยาวนาน และบางครั้งยังทำให้เกิดความผูกพันทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

2. กระตุ้นความเห็นอกเห็นใจ

Sadvertising มักเล่าเรื่องที่สะท้อนถึงประสบการณ์ที่มีผลต่อจิตใจ เช่น เรื่องราวของคนที่ต้องผ่านความยากลำบากหรือการสูญเสีย เหล่านี้จะทำให้ผู้ชมเกิดความเห็นอกเห็นใจและเชื่อมโยงกับตัวละครในโฆษณาได้ง่ายขึ้น เมื่อเกิดความรู้สึกเห็นใจ ผู้ชมมักจะเชื่อมโยงกับแบรนด์ที่มีเนื้อหาลักษณะนี้ เพราะรู้สึกว่าแบรนด์มีความเข้าใจในความเป็นมนุษย์และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน

3. สร้างความทรงจำที่ยั่งยืน

งานวิจัยเกี่ยวกับ การตลาดเชิงอารมณ์ พบว่า อารมณ์ที่เกี่ยวข้องกับความเศร้ามักทำให้ผู้ชมจดจำเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น การกระตุ้นอารมณ์ที่ลึกซึ้งไม่เพียงแต่ทำให้ผู้ชมจดจำโฆษณาได้ดี แต่ยังทำให้เนื้อหานั้นติดอยู่ในใจของพวกเขาเป็นเวลานาน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือโฆษณาที่มีเนื้อหาทางสังคม ซึ่งเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรักหรือความสูญเสีย ที่สามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจและจดจำเรื่องราวได้อย่างยาวนาน

4. สร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ลึกซึ้ง

โฆษณาแบบเศร้ามักถูกใช้โดยแบรนด์ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่ลึกซึ้งกับผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีผลกระทบต่อชีวิตผู้บริโภค เช่น บริการประกันชีวิต หรือองค์กรการกุศล แบรนด์ที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับเรื่องราวเหล่านี้จะสามารถสร้างความผูกพันที่ลึกซึ้งและยั่งยืนกับผู้บริโภค

5. โอกาสในการสร้างความไวรัล

โฆษณาที่มีอารมณ์เศร้าหรือเนื้อหาที่น่าสะเทือนใจมักมีโอกาสถูกแชร์ต่อมากกว่าโฆษณาประเภทอื่นๆ เนื่องจากผู้คนมักรู้สึกอยากแบ่งปันเรื่องราวที่กระตุ้นอารมณ์ให้กับคนอื่นๆ การที่โฆษณาสามารถทำให้ผู้ชมรู้สึกสะเทือนใจจนต้องแชร์ต่อไปเป็นปัจจัยที่ทำให้โฆษณาเหล่านี้มีโอกาสสร้างกระแสในโลกออนไลน์ หรือกลายเป็น ไวรัล (Viral) ได้ง่าย

ตัวอย่างโฆษณา Sadvertising ที่น่าสนใจ

  1. โฆษณาของ Thai Life Insurance
    หนึ่งในโฆษณา Sadvertising ที่โด่งดังมาจากไทยคือ Thai Life Insurance ซึ่งมักจะนำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ความสูญเสีย และการช่วยเหลือกัน โฆษณาเหล่านี้มักสร้างความทรงจำที่ลึกซึ้ง และทำให้ผู้ชมตระหนักถึงคุณค่าของการทำประกันชีวิตเพื่อดูแลคนที่เรารัก
  2. โฆษณา Budweiser – “Lost Dog”
    โฆษณา Budweiser เรื่อง “Lost Dog” ซึ่งบอกเล่าเรื่องราวของลูกสุนัขที่พลัดหลงจากบ้าน และการพยายามหาทางกลับบ้าน โฆษณานี้สร้างความประทับใจและกระตุ้นอารมณ์เศร้า แต่ในตอนจบก็สร้างความอิ่มเอมในใจที่ทำให้ผู้ชมจดจำโฆษณาได้ยาวนาน

Sadvertising เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ความเศร้าและอารมณ์ลึกซึ้งในการสร้างความทรงจำให้กับแบรนด์ โฆษณาที่สร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ชมไม่เพียงช่วยสร้างความจดจำ แต่ยังทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งและยั่งยืนกับแบรนด์ได้ Sadvertising ไม่ใช่เพียงแค่การขายสินค้า แต่ยังช่วยทำให้แบรนด์ถูกจดจำในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่สร้างความสะเทือนใจ และสร้างความผูกพันกับผู้ชมในระยะยาว